GS: Theses / Independent Studies

Permanent URI for this collection

Browse

Recent Submissions

Now showing 1 - 5 of 847
  • Publication
    ผลกระทบของโครงสร้างผู้ถือหุ้น แรงจูงใจของผู้บริหารและคุณภาพการสอบบัญชีต่อรายการคงค้างที่ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจและคุณภาพกำไรผ่านการเลือกวิธีปฏิบัติทางบัญชี : หลักฐานจากประเทศไทย
    (University of the Thai Chamber of Commerce (UTCC), 2021)
    การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อศึกษาผลกระทบของโครงสร้างผู้ถือหุ้น แรงจูงใจของผู้บริหารตามทฤษฎีการบัญชีเชิงบวก และคุณภาพการสอบบัญชีต่อการเลือกวิธีปฏิบัติทางบัญชี 2) เพื่อศึกษาผลกระทบของวิธีปฏิบัติทางบัญชี โครงสร้างผู้ถือหุ้น แรงจูงใจของผู้บริหารตามทฤษฎีการบัญชีเชิงบวกและคุณภาพการสอบบัญชีต่อรายการคงค้างที่ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจ 3) เพื่อศึกษาผลกระทบของวิธีปฏิบัติทางบัญชี โครงสร้างผู้ถือหุ้น แรงจูงใจของผู้บริหารตามทฤษฎีการบัญชีเชิงบวกและคุณภาพการสอบบัญชีต่อคุณภาพกำไร 4) เพื่อศึกษาผลกระทบของโครงสร้างผู้ถือหุ้น แรงจูงใจของผู้บริหารตามทฤษฎีการบัญชีเชิงบวก และคุณภาพการสอบบัญชีต่อรายการคงค้างที่ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจผ่านการเลือกวิธีปฏิบัติทางบัญชี และ 5) เพื่อศึกษาผลกระทบของโครงสร้างผู้ถือหุ้น แรงจูงใจของผู้บริหารตามทฤษฎีการบัญชีเชิงบวก และคุณภาพการสอบบัญชีต่อคุณภาพกำไร ผ่านการเลือกวิธีปฏิบัติทางบัญชี กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ มีจำนวน 1,021 ตัวอย่าง จากบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่อยู่ในช่วงปี พ.ศ. 2554 – 2561 คัดเลือกโดยใช้วิธีเฉพาะเจาะจง ซึ่งเก็บรวบรวมจากแหล่งข้อมูลทุติยภูมิ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้เทคนิคการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณด้วยวิธีกำลังสองน้อยที่สุด (OLS) และวิธีกำลังสองน้อยที่สุดสองขั้น (2SLS) ผลการศึกษาพบว่า การกระจุกตัวของผู้ถือหุ้น และการถือหุ้นโดยนักลงทุนรายย่อย ส่งผลกระทบเชิงบวกอย่างมีนัยสำคัญต่อวิธีปฏิบัติทางบัญชี ในทางตรงข้ามพบว่า บริษัทที่ไม่มีผู้ถือหุ้นเป็นผู้บริหาร ผลการดำเนินงาน อัตราส่วนหนี้สิน ขนาดกิจการ และคุณภาพการสอบบัญชี ส่งผลกระทบเชิงลบอย่างมีนัยสำคัญต่อวิธีปฏิบัติทางบัญชี สำหรับผลการศึกษาเกี่ยวกับผลกระทบต่อรายการคงค้างที่ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจพบว่า การกระจุกตัวของผู้ถือหุ้นและการถือหุ้นโดยนักลงทุนรายย่อยส่งผลกระทบเชิงบวกอย่างมีนัยสำคัญต่อรายการคงค้างที่ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจ ในทางตรงข้ามพบว่า วิธีปฏิบัติทางบัญชี บริษัทที่ไม่มีผู้ถือหุ้นเป็นผู้บริหาร ผลการดำเนินงาน อัตราส่วนหนี้สิน ขนาดกิจการ และคุณภาพการสอบบัญชี ส่งผลกระทบเชิงลบอย่างมีนัยสำคัญต่อรายการคงค้างที่ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจ สำหรับผลการศึกษาเกี่ยวกับผลกระทบต่อคุณภาพกำไร พบว่า วิธีปฏิบัติทางบัญชี บริษัทที่ไม่มีผู้ถือหุ้นเป็นผู้บริหาร อัตราส่วนหนี้สิน ขนาดกิจการ และคุณภาพการสอบบัญชี ส่งผลกระทบเชิงบวกอย่างมีนัยสำคัญกับคุณภาพกำไร ในทางตรงข้ามพบว่า การถือหุ้นโดยนักลงทุนรายย่อยส่งผลกระทบเชิงลบอย่างมีนัยสำคัญต่อคุณภาพกำไร แต่ไม่พบผลกระทบของการกระจุกตัวของผู้ถือหุ้น และผลการดำเนินงานต่อคุณภาพกำไรการศึกษาครั้งนี้พบว่า วิธีปฏิบัติทางบัญชีเป็นตัวแปรส่งผ่านผลกระทบทางอ้อมของการกระจุกตัวของผู้ถือหุ้น การถือหุ้นโดยนักลงทุนรายย่อย การไม่มีผู้ถือหุ้นเป็นผู้บริหาร ผลการดำเนินงาน อัตราส่วนหนี้สิน ขนาดกิจการ และคุณภาพการสอบบัญชีต่อรายการคงค้างที่ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจ รวมทั้ง วิธีปฏิบัติทางบัญชีส่งผ่านผลกระทบทางอ้อมสาหรับการกระจุกตัวของผู้ถือหุ้น การถือหุ้นโดยนักลงทุนรายย่อย การไม่มีผู้ถือหุ้นเป็นผู้บริหาร ผลการดำเนินงาน อัตราส่วนหนี้สินขนาดกิจการ และคุณภาพการสอบบัญชีต่อคุณภาพกำไร การศึกษาครั้งนี้ให้หลักฐานเพิ่มเติมจากวรรณกรรมในอดีตเกี่ยวกับประเทศไทย ซึ่งเป็นตลาดเกิดใหม่ โดยพบว่าโครงสร้างการถือหุ้นและคุณภาพการสอบบัญชีส่งผลกระทบที่สำคัญต่อรายการคงค้างที่ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจและคุณภาพกำไร ผ่านการเลือกวิธีปฏิบัติทางบัญชี
      142  347
  • Publication
    ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าออนไลน์ทางแอพพลิเคชั่น SHEIN
    (University of the Thai Chamber of Commerce (UTCC), 2021)
    การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยประชากรศาสตร์ กับการตัดสินใจซื้อสินค้าออนไลน์ทางแอพพลิเคชั่น SHEIN เพื่อศึกษาพฤติกรรมในการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าทางออนไลน์ทางแอพพลิเคชั่น SHEIN และเพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างส่วนประสมทางการตลาด 7P’s กับการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าทางออนไลน์ทางแอพพลิเคชั่น SHEIN โดยเก็บรวบรวมข้อมูลปฐมภูมิ (Primary Data) โดยใช้แบบสอบถามออนไลน์ กลุ่มตัวอย่างจำนวน 400 คน และนำมาวิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรแกรมสำเร็จรูปโดยวิธีทางสถิติ SPSS ทำการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพรรณนา และวิเคราะห์ข้อมูลเชิงอนุมาน ใช้วิธีการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-Way ANOVA) และวิธี Chi-Square จากผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง อายุ 21-30 ปี สถานภาพโสด การศึกษาระดับปริญญาตรี อาชีพนักเรียน/นักศึกษา รายได้ต่อเดือน 10,000 - 20,000 บาท โดยส่วนใหญ่ซื้อสินค้าจากช่องทางแอพพลิเคชั่น 1 - 2 ครั้งต่อเดือน และเฉลี่ยนค่าใช้จ่ายต่อครั้ง 501 - 1,000 บาท ส่วนการทดสอบสมมติฐานเกี่ยวกับลักษณะทางประชากรศาสตร์ พบว่า ปัจจัยด้านเพศ ระดับการศึกษา และรายได้ต่อเดือน ที่แตกต่างกัน ส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าออนไลน์ทางแอพพลิเคชั่น SHEIN ที่แตกต่างกัน ส่วนปัจจัยด้านอายุ สถานภาพ อาชีพ ที่แตกต่างกัน ส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าออนไลน์ทางแอพพลิเคชั่น SHEIN ไม่แตกต่างกัน และส่วนของปัจจัยส่วนประสมทางการตลาด 7P’s พบว่า ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าออนไลน์ทางแอพพลิเคชั่น SHEIN มี 7 ปัจจัย ได้แก่ ปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์ ปัจจัยด้านราคา ปัจจัยด้านการจัด จำหน่าย ปัจจัยด้านบุคคล ปัจจัยด้านการส่งเสริมการตลาด ปัจจัยด้านกระบวนการ และปัจจัยด้านลักษณะทางกายภาพ
      194  470
  • Publication
    ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจขายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุน (Unit-Linked) กรณีศึกษา : ตัวแทนขายบริษัทไทยประกันชีวิตจำกัด (มหาชน)
    (University of the Thai Chamber of Commerce (UTCC), 2021)
    งานวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจขายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุน (Unit-Linked) กรณีศึกษา ตัวแทนขายบริษัทไทยประกันชีวิต จากัด (มหาชน) และศึกษาความแตกต่างของการตัดสินใจขายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุน (Unit-Linked) ในปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุน และศึกษาความสัมพันธ์ของปัจจัยของผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุน (Unit-Linked) กับการตัดสินใจขายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุน โดยกลุ่มตัวอย่างคือ ตัวแทนประกันชีวิต บริษัทไทยประกันชีวิต จากัด (มหาชน) 400 ตัวอย่าง โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล โดยใช้สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพรรณา อาทิเช่น ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และใช้สถิติในการทดสอบสมมติฐาน ได้แก่ Independent-samples T-Test การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-Way ANOVA) และการวิเคราะห์สมการถดถอยเชิงพหุคูณ (Multiple Linear Regression) ที่ระดับนัยสาคัญทางสถิติ 0.05 โดยผลการทดสอบสมมติฐาน ที่เกี่ยวกับค่าเฉลี่ยของการตัดสินใจขายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุน พบว่า ปัจจัยด้านประชากรศาสตร์ ด้านเพศพบว่าค่าเฉลี่ยการตัดสินใจขายผลิตภัณฑ์แบบประกันชีวิตควบการลงทุนทีแอล ไลฟ์ โซลูชั่น 99/1 และแบบประกันชีวิตควบการลงทุนทีแอล ไลฟ์ โซลูชั่น 99/99 เท่ากันในเพศชายและเพศหญิง ด้านอายุพบว่าค่าเฉลี่ยการตัดสินใจขายผลิตภัณฑ์แบบประกันชีวิตควบการลงทุนทีแอล ไลฟ์ โซลูชั่น 99/1 และแบบประกันชีวิตควบการลงทุนทีแอล ไลฟ์ โซลูชั่น 99/99 เท่ากันในทุกช่วงอายุ ด้านสถานภาพครอบครัว พบว่าค่าเฉลี่ยการตัดสินใจขายผลิตภัณฑ์แบบประกันชีวิตควบการลงทุนทีแอล ไลฟ์ โซลูชั่น 99/1 และแบบประกันชีวิตควบการลงทุนทีแอล ไลฟ์ โซลูชั่น 99/99 เท่ากันในทุกสถานภาพครอบครัว ด้านการศึกษา พบว่าค่าเฉลี่ยการตัดสินใจขายผลิตภัณฑ์แบบประกันชีวิตควบการลงทุนทีแอล ไลฟ์ โซลูชั่น 99/1 และแบบประกันชีวิต ควบการลงทุนทีแอล ไลฟ์ โซลูชั่น 99/99 เท่ากันในทุกระดับการศึกษา และด้านจานวนปีที่เป็นตัวแทนขายประกันชีวิต พบว่าค่าเฉลี่ยการตัดสินใจขายผลิตภัณฑ์แบบประกันชีวิตควบการลงทุนทีแอล ไลฟ์ โซลูชั่น 99/1 และแบบประกันชีวิตควบการลงทุนทีแอล ไลฟ์ โซลูชั่น 99/99 เท่ากันในแต่ละจานวนปีที่เป็นตัวแทนขายประกันชีวิต การวิเคราะห์สมการถดถอยเชิงพหุคูณ พบว่า ปัจจัยที่มีอิทธิผลต่อการตัดสินใจขายผลิตภัณฑ์แบบประกันชีวิตควบการลงทุนทีแอล ไลฟ์ โซลูชั่น 99/1 อย่างมีนัยสาคัญ โดยเรียงลาดับค่าสัมประสิทธิ์ ได้แก่ 1.ปัจจัยด้านพนักงานที่ทาหน้าที่สนับสนุนกระบวนการขาย 2.ปัจจัยด้านกองทุนรวมภายใต้แบบประกันยูนิตลิงค์ และ 3.ปัจจัยด้านเครื่องมือสนับสนุนกระบวนการขาย และปัจจัยที่มีอิทธิผลต่อการตัดสินใจขายผลิตภัณฑ์แบบประกันชีวิตควบการลงทุนทีแอล ไลฟ์ โซลูชั่น 99/99อย่างมีนัยสาคัญ โดยเรียงลาดับค่าสัมประสิทธิ์ ได้แก่ 1.ปัจจัยด้านพนักงานที่ทาหน้าที่สนับสนุนกระบวนการขาย 2.ปัจจัยด้านกองทุนรวมภายใต้แบบประกันยูนิตลิงค์
      23  94
  • Publication
    ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการออมของบุคลากรกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
    (University of the Thai Chamber of Commerce (UTCC), 2021)
    การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมการออมและปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการออมของบุคลากรกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ บุคลากร กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จำนวน 350 คน เก็บรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง ใช้โปรแกรมสำเร็จรูปในการวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติ โดยสถิติเชิงพรรณาใช้ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในการวิเคราะห์ข้อมูล และสถิติเชิงอนุมานใช้การวิเคราะห์ความแตกต่างใช้ค่า t-test และค่า F-test (One-Way ANOVA) และสถิติสัมพันธ์ไคลสแควร์ (Chi-Square) ในการวิเคราะห์ข้อมูล จากผลการศึกษาพบว่า ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุระหว่าง 27 - 37 ปี สถานภาพโสด สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี เป็นข้าราชการ อายุงาน 1 - 5 ปี รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 15,000 – 25,000 บาท ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อเดือน (ไม่รวมภาระหนี้สิน) 10,000 – 20,000 บาท และมีภาระหนี้สินที่ต้องชำระต่อเดือน 5,000 – 10,000 บาท มีเงินออม 1,000 – 2,000 บาทต่อเดือน มีการออมกับสหกรณ์ออมทรัพย์ของหน่วยงาน มีการคำนวณค่าใช้จ่ายต่อเดือนเมื่อเกษียณ 15,001 - 20,000 บาท มีรูปแบบการออมในบัญชีเงินฝากธนาคาร และมีวัตถุประสงค์ในการออมเพื่อไว้ใช้จ่ายยามฉุกเฉิน ผลการทดสอบสมมติฐานพบว่า ปัจจัยส่วนบุคคล ด้านประเภทบุคลากร และด้านค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อเดือนแตกต่างกัน จะส่งผลต่อพฤติกรรมการออมของบุคลากรกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานที่แตกต่างกัน และค่าใช้จ่ายต่อเดือนเมื่อเกษียณมีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการออมของบุคลากรกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
      26  115
  • Publication
    ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกเติมน้ำมันเชื้อเพลิงจากสถานีบริการน้ำมัน ในกรุงเทพมหานคร
    (University of the Thai Chamber of Commerce (UTCC), 2021)
    การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาลักษณะประชากรศาสตร์ที่แตกต่างกันส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกเติมน้ำมันเชื้อเพลิงจากสถานีบริการน้ำมันในกรุงเทพมหานคร เพื่อศึกษาพฤติกรรมของผู้ใช้บริการที่ส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกเติมน้ำมันเชื้อเพลิงจากสถานีบริการน้ำมัน ในกรุงเทพมหานครและเพื่อศึกษาปัจจัยของส่วนประสมทางการตลาดที่ส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกเติมน้ำมันเชื้อเพลิงจากสถานีบริการน้ำมัน ในกรุงเทพมหานคร โดยเก็บรวบรวมข้อมูลปฐมภูมิ (Primary Data) โดยใช้แบบสอบถามออนไลน์ กลุ่มตัวอย่างจำนวน 400 คน และนำมาวิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรแกรมสำเร็จรูปโดยวิธีทางสถิติ SPSS ทำการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพรรณนา และวิเคราะห์ข้อมูลเชิงอนุมาน ใช้วิธีการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-Way ANOVA) และวิธี Chi-Square ผลการศึกษาพบว่า มีเพศชาย มากกว่าเพศหญิง คิดเป็นร้อยละ 53.0, 47.0 ตามลำดับ โดยร้อยละ 78.8 มีอายุ 21-37 ปี สถานภาพโสดร้อยละ 82.8 ส่วนใหญ่มีระดับการศึกษาปริญญาตรี คิดเป็นร้อยละ 71.3 นอกจากนี้ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีรายได้ต่อเดือนอยู่ที่ 10,001 – 30,000 บาท คิดเป็นร้อยละ 60.3 ส่วนการทดสอบสมมติฐานเกี่ยวกับลักษณะทางประชากรศาสตร์ พบว่า ปัจจัยด้านอายุที่แตกต่างกัน จะส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกเติมน้ำมันเชื้อเพลิงจากสถานีบริการน้ำมันที่แตกต่างกัน แต่ปัจจัยด้านประชากรศาสตร์ด้านอื่นๆ คือปัจจัยด้านเพศ สถานภาพ การศึกษา และรายได้ ที่แตกต่างกันจะส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกเติมน้ำมันเชื้อเพลิงจากสถานีบริการน้ำมันที่ไม่แตกต่างกัน และส่วนของปัจจัยส่วนประสมทางการตลาด 7P’s พบว่า ปัจจัยเกี่ยวกับลักษณะทางกายภาพ ปัจจัยด้านช่องทางการจัดจำหน่าย ด้านบุคคล ด้านผลิตภัณฑ์ ด้านกระบวนการ ด้านราคา และด้านส่งเสริมการขายมีผลต่อการตัดสินใจในการเลือกใช้บริการรองลงมา ตามลำดับ
      74  163