Please use this identifier to cite or link to this item:
https://scholar.utcc.ac.th/handle/6626976254/1327
Title: | การศึกษาปัญหา และการจัดการเชิงกลยุทธ์เพื่อเพิ่มผลประกอบการของธุรกิจผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป กรณีศึกษา บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จากัด (มหาชน) | Authors: | Pumsawai, Panwipa | Issue Date: | 2011 | Publisher: | University of the Thai Chamber of Commerce | Source: | Panwipa Pumsawai (2011) การศึกษาปัญหา และการจัดการเชิงกลยุทธ์เพื่อเพิ่มผลประกอบการของธุรกิจผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป กรณีศึกษา บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จากัด (มหาชน). | Abstract: | การศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง เรื่อง ปัญหา และการจัดการเชิงกลยุทธ์เพื่อเพิ่มผลประกอบการของธุรกิจผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป กรณีศึกษา บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) วัตถุประสงค์ คือ เพื่อยืนยันปัญหา/สาเหตุของปัญหาและปัจจัยสภาพแวดล้อมในปัจจุบัน ที่ส่งผลกระทบต่อระดับองค์กร ระดับหน่วยธุรกิจและระดับหน้าที่ด้านการตลาดของผลิตภัณฑ์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ภายใต้แบรนด์มาม่า และเพื่อกำหนดกลยุทธ์ในการแก้ปัญหา ทั้งในระดับองค์กร ระดับหน่วยธุรกิจ และระดับหน้าที่ด้านการตลาดของผลิตภัณฑ์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ภายใต้แบรนด์มาม่า รวมทั้งแนวทางการปฏิบัติตามกลยุทธ์ และควบคุมประเมินผล โดยได้ออกแบบการวิจัยเป็นแบบเชิงคุณภาพ มีการศึกษาข้อมูลปฐมภูมิ โดยการสัมภาษณ์เชิงลึก ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ และการทาแบบสอบถามเพื่อศึกษาพฤติกรรมของกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 112 คน และมีการศึกษาข้อมูลทุติยภูมิ จากข้อมูลในแหล่งต่างๆ และนำข้อมูลที่ได้มาทำการวิเคราะห์ เพื่อกำหนดกลยุทธ์ในแต่ละระดับ โดยมีการใช้เครื่องมือต่าง ๆ เช่น SWOT , Five Forces,STP,4PและTOWS_Matrix จากการศึกษาพบว่า ในปี 2553 มาม่ามีส่วนแบ่งทางการตลาดที่ลดลง 2 % คือจากเดิม 56% เปลี่ยนแปลงเป็น 54% ทำให้ต้องสูญเสียส่วนแบ่งการตลาดให้กับคู่แข่ง ดังนั้น จากปัญหาดังกล่าว เพื่อเพิ่มผลประกอบการของธุรกิจบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในประเทศไทย บริษัทฯควรเลือกใช้กลยุทธ์ ดังนี้ 1.กลยุทธ์ระดับองค์กร เน้นกลยุทธ์การเติบโต (Growth Strategy) เพื่อเป็นการสร้างรายได้ และตอกย้ำถึงภาพลักษณ์ความแข็งแกร่งขององค์กรให้สามารถเติบโตได้ในระยะยาว 2.กลยุทธ์ระดับหน่วยธุรกิจ เน้นกลยุทธ์สร้างความแตกต่างเฉพาะกลุ่ม โดยการสร้าง Product Differentiation ออกมา เพื่อทำให้ผลิตภัณฑ์มีความโดดเด่นและตอบโจทย์ได้ตรงกับความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป และ 3.กลยุทธ์ระดับหน้าที่งาน ควรเน้นกลยุทธ์ส่วนประสมทางการตลาด(Marketing Mix Strategy) และ กลยุทธ์การบริหารลูกค้าสัมพันธ์(CRM) ในการสร้างความจงรักภักดี โดยการรักษาฐานลูกค้าเก่าซึ่งมีความสำคัญมากพร้อมกับหาฐานลูกค้ารายใหม่ เนื่องจากถ้าเน้นแต่หาลูกค้าใหม่อย่างเดียวจะทำให้องค์กรมีต้นทุนในการดำเนินงานมากขึ้น ดังนั้น จึงควรนำ CRM เข้ามาใช้ร่วมกับ 4Ps เพื่อสำหรับใช้ในการพัฒนาและเพิ่มโอกาสในการแข่งขันให้กับองค์กรในระยะยาว ให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ตรงตามความต้องการมากที่สุด |
URI: | https://scholar.utcc.ac.th/handle/6626976254/1327 | Other contributor(s): | University of the Thai Chamber of Commerce. Graduate School | Subject(s): | Marketing | Resource type: | Thesis | Language: | en_US | Degree level: | masters | Degree department: | School of Business | Degree grantor: | University of the Thai Chamber of Commerce | Rights: | This work is protected by copyright. Reproduction or distribution of the work in any format is prohibited without written permission of the copyright owner. | Access rights: | public | Rights holder: | University of the Thai Chamber of Commerce |
Appears in Collections: | GS: Theses / Independent Studies |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
291abstract.pdf | 107.86 kB | Adobe PDF | View/Open | |
291fulltext.pdf | 2.39 MB | Adobe PDF | ![]() View/Open | |
291summary.pdf | 167.49 kB | Adobe PDF | ![]() View/Open |
Page view(s)
3,303
Last Week
14
14
Last month
65
65
checked on Feb 7, 2023
Download(s)
37,189
checked on Feb 7, 2023
Google ScholarTM
Check
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.